ชื่อเรื่อง | : | การเปรียบเทียบคุณภาพของแบบสอบเลือกตอบ เมื่อตรวจด้วยวิธีการให้คะแนนความรู้บางส่วนกับวิธีประเพณีนิยม |
นักวิจัย | : | เอมอร จังศิริพรปกรณ์ |
คำค้น | : | ทฤษฎีการตอบสนองข้อสอบ , ข้อสอบ |
หน่วยงาน | : | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
ผู้ร่วมงาน | : | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ภาควิชาวิจัยการศึกษา |
ปีพิมพ์ | : | 2545 |
อ้างอิง | : | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/2181 |
ที่มา | : | - |
ความเชี่ยวชาญ | : | - |
ความสัมพันธ์ | : | - |
ขอบเขตของเนื้อหา | : | - |
บทคัดย่อ/คำอธิบาย | : | การวิจัยครั้งนี้มีวตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพของแบบสอลในด้านความตรงตามสภาพอำนาจจำแนก ความยาก ฟังก์ชันสารสนเทศของข้อสบอ ฟังก์ชันสารสนเทศของแบบสอบ และอัตราส่วนสารสนเทศเฉลี่ยโดยใช้ทฤษฎีการตอบสนองข้อสอบเมื่อตรวจสอบให้คะแนนแบบประเพณีนิยมกับวิธีให้คะแนนความรู้บางส่วน ซึ่งประกอบด้วยวิธีประยุกต์การให้คะแนนของคูมบ์ และวิธีประยุกต์การให้คะแนนของเดรสเซลและสมิท กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได่แก่ นิสิตคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 3 ที่ลงทะเบียนเรียน วิชาการประเมินผลการเรียนการสอน ในภาคการศึกษาต้น ปีการศึกษา 2544 จำนวน 297 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบที่ใช้เป็นแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาการประเมินผลการเรียนการสอน ที่มีวิธีการตรวจให้คะแนน 3 วิธีดังกล่าวจากแบบสอบชุดเดียวกัน เก็บข้อมูลโดยให้ทำข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาการประเมินผลการเรียนการสอนที่สร้างขึ้น 3 ครั้ง ด้วยแบบสอบชุดเดียวกัน แต่วิธีการตอบแตกต่างกัน โดยการเก็บข้อมูลแต่ละครั้งห่างกัน 2 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม BILOG สำหรับการให้คะแนนแบบประเพณีนิยม และใช้โปรแกรม PARSCALE สำหรับการให้คะแนนด้วยวิธีประยุกต์การให้คะแนนของคูมบ์และวิธีประยุกต์การให้คะแนนของเดรสเชลและสมิท ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. การเปรียบเทียบความตรงตามสภาพ ระหว่างวิธีการตรวจให้คะแนนที่แตกต่างกัน พบว่าทั้ง 3 วิธี มีค่าความตรงตามสภาพไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 2. การเปรียบเทียบอำนาจจำแนกและความยากระหว่างวิธีการตรวจให้คะแนนที่แตกต่างกัน พบว่าวิธีประยุกต์การให้คะแนนของคูมบ์มีค่าอำนาจจำแนกเฉลี่ยสูงสุดและมีค่าความยากเฉลี่ยต่ำที่สุด 3. การเปรียบเทียบฟังก์ชันสารสนเทศของข้อสอบ ฟังก์ชันสารสนเทศของแบบสอบ และอัตราส่วนสารสนเทศระหว่างวิธีการตรวจให้คะแนนที่แตกต่างกัน พบว่าวิธีประยุกต์การให้คะแนนของคูมบ์ มีค่าฟังก์ชันสารสนเทศของข้อสอบ ฟังก์ชันสารสนเทศของแบบสอบ และอัตราส่วนสารสนเทศเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือวิธีประยุกต์การให้คะแนนของเดรสเชลและสมิท ส่วนวิธีประเพณีนิยมมีค่าต่ำที่สุด |
บรรณานุกรม | : |
เอมอร จังศิริพรปกรณ์ . (2545). การเปรียบเทียบคุณภาพของแบบสอบเลือกตอบ เมื่อตรวจด้วยวิธีการให้คะแนนความรู้บางส่วนกับวิธีประเพณีนิยม.
กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. เอมอร จังศิริพรปกรณ์ . 2545. "การเปรียบเทียบคุณภาพของแบบสอบเลือกตอบ เมื่อตรวจด้วยวิธีการให้คะแนนความรู้บางส่วนกับวิธีประเพณีนิยม".
กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. เอมอร จังศิริพรปกรณ์ . "การเปรียบเทียบคุณภาพของแบบสอบเลือกตอบ เมื่อตรวจด้วยวิธีการให้คะแนนความรู้บางส่วนกับวิธีประเพณีนิยม."
กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545. Print. เอมอร จังศิริพรปกรณ์ . การเปรียบเทียบคุณภาพของแบบสอบเลือกตอบ เมื่อตรวจด้วยวิธีการให้คะแนนความรู้บางส่วนกับวิธีประเพณีนิยม. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2545.
|