ในการศึกษาฤทธิ์ต้านมาลาเรียและองค์ประกอบทางเคมีของใบสาบเสือ โดยนำใบสาบเสือจาก จังหวัดระยอง กาญจนบุรีและกรุงเทพมหานครมาสกัดด้วย 95% เอธานอล นำสารสกัดแต่ละชนิดมา ทดสอบต่อเชื้อมาลาเรียชนิดฟัลซิปารัม ~i(Plasmodium falciparum)~i สายพันธุ์ K1 พบว่า ใบสาบเสือจากจังหวัดระยอง กาญจนบุรีและกรุงเทพมหานครมีค่า MIC 25, 25 และ 50 (+,m)g/ml ตามลำดับ นำใบสาบเสือจากจังหวัดกาญจนบุรีมาสกัดด้วยตัวทำละลาย 5 ชนิด คือ เฮกเซน, อีเทอร์, คลอโรฟอร์ม, เอธิลอะซีเตทและเอธานอล จากผลการทดสอบฤทธิ์ต่อเชื้อมาลาเรีย ชนิดฟัลซิปารัม พบว่า สารสกัดในชั้นอีเทอร์และคลอโรฟอร์มสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของ เชื้อมาลาเรียชนิดฟัลซิปารัมได้ดีที่สุดโดยมีค่า MIC เท่ากับ 12.5 และ 6.25 (+,m)g/ml ตามลำดับ จากผลการทดสอบฤทธิ์ต่อเชื้อมาลาเรียชนิดฟัลซิปารัมเมื่อทำการแยกโดยวิธีโครมาโตกราฟี ในสารสกัดชั้นอีเทอร์ พบว่า F5 มีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาลาเรียชนิดฟัลซิปารัมได้ มากที่สุด โดยมีค่า MIC เท่ากับ 1.56 (+,m)g/ml ทำการแยกสารที่เป็นสารสำคัญหลักใน F5 พบว่า คือ isosakuranetin เมื่อนำไปทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อมาลาเรียชนิดฟัลซิปารัม พบว่า Isosakuranetin ไม่มีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาลาเรียชนิดฟัลซิปารัม ที่ความเข้มข้น ของสาร 5 (+,m)g/ml.