วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2528

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะเปรียบเทียบทัศนคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีรูปแบบการคิดแตกต่างกัน และเพื่อเปรียบเทียบทัศนคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชายหญิงที่มีรูปแบบการคิดกันแต่ละแบบ กลุ่มตัวอย่างประชากรเป็นนักเรียนชายหญิงชายและหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โปรแกรมวิทยาศาสตร์ ปีการศึกษา 2527 ของโรงเรียนรัฐบาลในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 10 โรง รวมตัวอย่างประชากรทั้งสิ้น 253 คน เป็นนักเรียนชาย 147 คน และนักเรียน 106 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบทดสอบวัดรูปแบบการคิดที่สร้างโดย ธงชัย ชิวปรีชา และคณะ ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์ของความเที่ยง 0.886 และแบบทดสอบวัดทัศนคติทางวิทยาศาสตร์ผู้วิจัยสร้างเอง มีค่าสัมประสิทธิ์เอง มีค่าสัมประสิทธิ์ของความเที่ยง 0.8499 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1.นักเรียนที่มีรูปแบบการคิดแบบวิเคราะห์เชิงบรรยาย แบบจำแนกประเภทเชิงอ้างอิง แบบโยงสัมพันธ์ มีทัศนคติทางวิทยาศาสตร์ไม่แตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญ .05 2.นักเรียนชายและหญิงที่มีรูปแบบการคิดเหมือนกัน มีทัศนคติทางวิทยาศาสตร์ไม่แตกต่างกันที่ระดับมีนัยสำคัญ .05